iPhone 5กับเหตุผลที่ทำให้คนไม่อยากซื้อ

      วันนี้หลายบทความพร้อมใจกันยกเหตุผลมากมายที่สาวกไอโฟน(Iphone)ควรคิดให้ดีก่อนตัดสินใจทิ้งไอโฟน(Iphone)เครื่องเก่าแล้วซื้อหา"ไอโฟน(Iphone)5"มาใช้งาน ทั้งเรื่องดีไซน์ที่ไม่แตกต่างจากไอโฟน(Iphone)รุ่นเดิม กล้องดิจิตอลที่ไม่ได้ดีกว่าเดิมแบบก้าวกระโดด รวมถึงการนำระบบ iOS 6 ไปติดในไอโฟน(Iphone)รุ่น 4S ก็ใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่คุณควรรู้นั้นไม่ได้มีแค่นี้ แต่ยังมี 5 เหตุผลที่อาจจะทำให้คุณลังเลได้ง่ายๆ

       ทั้ง 5 เหตุผลนี้ David Gewirtz อาจารย์แห่งสถาบัน CBS Interactive วิเคราะห์ไว้บนเว็บไซต์ของ zdnet.com โดยระบุว่าเหตุผลเหล่านี้คือสิ่งที่จะทำให้ชาวฮัลโหลลังเลใจที่จะซื้อไอโฟน 5 (Iphone 5) มาใช้งาน (อย่างน้อยก็ในขณะนี้) ก.ย.55


เหตุผล 1: ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมหรือ accessories ใหม่ทั้งหมด

โฉมหน้าของ iPhone แต่ละเวอร์ชัน

       เหตุผลข้อนี้สำคัญมากสำหรับสาวกแอปเปิลที่กำลังสนใจในไอโฟน 5 (Iphone 5) เพราะสาวกหลายรายมีโอกาสสูงที่จะใช้งานสินค้าแอปเปิลชิ้นอื่นด้วย ทั้งไอแพด (iPad) และไอพ็อด (iPad) ดังนั้นอุปกรณ์เสริมทุกอย่างที่เคยใช้งานได้กับสินค้าแอปเปิลเหล่านี้จะใช้ไม่ได้กับไอโฟน 5 (Iphone 5)


       ขณะนี้ แอปเปิลเปิดตัวพอร์ตเชื่อมต่อ dock connector รุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กลง โดยเปิดตัวสายชาร์จรุ่นปรับปรุงใหม่ในชื่อ "Lightning" บนขนาดเล็กกว่าเดิม 80% ปัญหาคือพอร์ตเหล่านี้ไม่สามารถทำงานร่วมกับพอร์ตดั้งเดิมที่แอปเปิลนำมาใช้กับอุปกรณ์ของตัวเองมานานหลายปี สิ่งที่เกิดขึ้นคือผู้ที่ซื้อไอโฟน 5 (Iphone 5) จะต้องซื้ออุปกรณ์เสริมใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ในรถยนต์ ถึงลำโพงสเตอริโอที่มีพอร์ต 30 เข็มติดอยู่ด้านบน


       จุดนี้ นักสังเกตการณ์คาดว่าอุปกรณ์เสริมที่รองรับพอร์ตใหม่ 8 เข็มอาจจะไม่สามารถเริ่มวางจำหน่ายได้ในเร็ววัน และบางรายอาจไม่ได้รับอนุญาตจากแอปเปิลให้ผลิตอุปกรณ์เสริมพอร์ตใหม่ ซึ่งเท่ากับผู้ใช้ไอโฟน 5 (Iphone 5) จะยังต้องรออีกระยะกว่าจะได้ใช้งานอุปกรณ์เสริมที่คุ้นเคยเมื่อครั้งใช้ไอโฟน(Iphone) 4S

เหตุผล 2: ต้องจ่ายเงินเพิ่มซื้อตัวแปลงพอร์ต (dock adapter)

ต่อจากพอร์ทเชื่อมต่อ Thunderbolt แล้ว แอปเปิลมีพอร์ทเชื่อมต่อใหม่ Ligthning

       แอปเปิลระบุชัดเจนว่า ผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อผ่านพอร์ตรูปแบบเดิม 30 เข็มจะสามารถซื้ออุปกรณ์แปลงหรือ Adapter เพื่อให้พอร์ตดั้งเดิมสามารถใช้เป็นพอร์ต Lightning ได้ที่แอปเปิลสโตร์ ดังนั้นผู้ที่ต้องการใช้อุปกรณ์เสริมรุ่นเก่าที่มีอยู่ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์แปลงพอร์ตนี้เองในราคา 29 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 900 บาท

       ประเด็นนี้มีความเสี่ยง รายงานของ David ชี้ว่าอุปกรณ์แปลงประเภท adapter มักเกิดข้อผิดพลาดในการทำงานบ่อยครั้ง ขณะเดียวกันอุปกรณ์เสริมของบางค่ายอาจไม่สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์แปลงพอร์ตดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ผู้ซื้ออุปกรณ์แปลงพอร์ตไปใช้งานกับไอโฟน 5 (Iphone 5) อาจต้องจ่ายเงินไปฟรี

       เบื้องต้น อุปกรณ์แปลงพอร์ตจากแบรนด์จีนนั้นเริ่มวางจำหน่ายบนอีเบย์แล้วในราคาเพียง 10.50 เหรียญ ราว 300 บาท อุปกรณ์ดังกล่าวใช้ชื่อว่า Apple Lightning to 30-PIN Adapter for iPhone 5 ipod 5 iPod Nano 7th GEN ถือเป็นการวางจำหน่ายในราคาถูกกว่าแอปเปิลถึง 70% และวางจำหน่ายล่วงหน้าก่อนที่แอปเปิลจะวางตลาด ซึ่งจุดนี้ไม่มีใครการันตีได้ว่าอุปกรณ์แปลงพอร์ตนี้จะใช้งานได้กับอุปกรณ์เสริมทุกชนิด


เหตุผล 3: LTE ยังไม่แพร่หลาย

ผู้นำองค์กร Tim Cook

       เหตุผลข้อนี้ David ใช้จูงใจสาวกแอปเปิลในสหรัฐฯ โดยบอกว่าแม้ 4G หรือ LTE นั้นเป็นหนทางออนไลน์ความเร็วสูงพิเศษที่ชาวอเมริกันหลายคนต้องการใช้งาน แต่ปัญหาคือ 4G LTE นั้นไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ในสหรัฐฯ จุดนี้ทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของไอโฟน 5 (Iphone 5) ในบางพื้นที่นั้นอาจจะไม่ต่างกับการเชื่อมต่อ 3G บนไอโฟน(Iphone)รุ่น 4S


       สำหรับประเทศไทย แม้ค่ายมือถือจะเริ่มประกาศว่าได้เริ่มทดสอบ 4G LTE ในบางพื้นที่ของไทย แต่เชื่อว่าคุณสมบัติการรองรับ LTE จะมีผลต่อการใช้งานในเมืองไทยระดับน้อยมาก และยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าชาวไทยในวงกว้างจะได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติ LTE อย่างเต็มที่



เหตุผล 4: หน้าจอใหญ่ขึ้น อาจทำให้หลายแอปดูแย่ลง

       วันนี้ นักพัฒนาแอปพลิเคชันนั้นมีงานรออยู่นั่นคือการเขียนโปรแกรมสร้างแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานบนหน้าจอหลายขนาด เฉพาะสินค้าค่ายแอปเปิล นักพัฒนามีคิวต้องปรับแอปพลิเคชันของตัวเองให้รองรับหน้าจอมากถึง 5 ขนาด ได้แก่ไอโฟน(Iphone)รุ่นแรก, ไอโฟน(Iphone)รุ่นหน้าจอ Retina display, ไอแพดรุ่นแรก, ไอแพดรุ่นหน้าจอ Retina และล่าสุดคือไอโฟน 5 (Iphone 5) หน้าจอขนาด 4 นิ้ว อัตราส่วน Widescreen 16:9 ความละเอียด 1136 x 640 พิกเซล

       แน่นอนว่าผู้สร้างแอปพลิเคชันจำนวนมากจะปรับปรุงแอปพลิเคชันของตัวเองให้รองรับหน้าจอไอโฟน 5 (Iphone 5) แต่ในภาพรวมเชื่อว่ายังต้องใช้เวลาอีกนาน ซึ่งระหว่างนี้ แอปพลิเคชันที่ยังไม่ได้อัปเดตให้รองรับกับไอโฟน 5 (Iphone 5) จะต้องแสดงผลโดยมีขอบดำบนและล่างปรากฏขึ้นขณะใช้งาน ทำให้การใช้งานแอปพลิเคชันบนไอโฟน 5 (Iphone 5) มีความคล้ายคลึงกับแอปพลิเคชันบนไอแพดซึ่งต้องมีขอบสีดำอยู่ด้านข้าง

       ดังนั้นทางที่ดี คุณควรทดลองใช้งานไอโฟน 5 (Iphone 5) ก่อนตัดสินใจซื้อ ว่ารับได้หรือไม่กับขอบดำริมจอที่จะปรากฏขึ้นขณะใช้งานแอป ซึ่งจะต้องแลกกับคุณภาพการชมวิดีโอที่ดีกว่าบนไอโฟน 5 (Iphone 5)



เหตุผล 5: คุณยังใช้แพคเกจบริการมือถือไม่หมด


       ต้องยอมรับว่าผู้ซื้อไอโฟน(Iphone) 4S หลายคนซื้อไอโฟน(Iphone)แบบผูกสัญญาใช้บริการกับค่ายโอเปอเรเตอร์ การเปลี่ยนมาซื้อไอโฟน 5 (Iphone 5) จะทำให้แพคเกจค่าบริการมือถือยังเหลืออยู่ และทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น อาจจะดีกว่าหากสาวกแอปเปิลจะรอเวลาอีกไม่กี่เดือนเพื่อให้แพคเกจเดิมที่ใช้งานอยู่หมดลง

       นอกจากนี้ ชาวไทยหลายคนยังอยู่ในภาวะ"ยังผ่อนไอโฟน(Iphone)ไม่หมด" ซึ่งการรอเวลาซื้อหาไอโฟน(Iphone)รุ่นใหม่มาใช้งานไม่เพียงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ยังทำให้สาวกแอปเปิลมีเวลามองทางเลือกอื่นในตลาดสมาร์ทโฟน(smartphone)ได้มากขึ้น

       เพราะไม่เพียงไอโฟน 5 (Iphone 5) สินค้าใหม่ในตลาดสมาร์ทโฟน(smartphone)ปีนี้นั้นมีคิววางตลาดอีกมาก ซึ่งล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมบนหน้าจอคมชัดไม่แพ้กัน ดังนั้นขอเพียงรอให้ผู้เล่นทุกรายพร้อม กรรมการผู้ตัดสินใจ (ซื้อ) อย่างเราผู้บริโภค ก็จะสามารถเลือกซื้อหาอุปกรณ์ที่โดนใจได้มากที่สุดและเกิดประโยชน์สูงสุดด้วย.

ภาพ infographic จากเพจ LikeMe

ที่มา:http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000116742